Wednesday, 29 March 2023

โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

โควิดสายพันธุ์ใหม่ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาอย่าง XBB.1.5 ทำให้เกิดความรู้สึกกังวลเพราะว่ามันแพร่ไปอย่างได้อย่างเร็วทันใจ

นอกจากในสหรัฐฯ แล้ว การแพร่ระบาด ของ สายพันธุ์ใหม่ นี้ ก็ เริ่ม มี จำนวน มากขึ้น ใน สหราชอาณาจักร เช่นกัน แล้วเราจำเป็นต้องทราบอะไรบ้างเกี่ยวกับ XBB.1.5 เพื่อเตรียมรับมือกับมัน

2โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5 คืออะไร และก็ลักษณะของมันเป็นอย่างไร

มันเป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยที่แยกตัวมาจากโอมิครอนที่ถือว่าเป็นสายพันธุ์หลักของโลกอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์มาจาก อัลฟา เบตา แกมมา รวมทั้งเดลตา ที่เคยเป็นสายพันธุ์หลักมาก่อนหน้านี้

โอมิครอนเป็นเชื้อไวรัสที่มีคุณภาพเหนือกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทั้งหมดนับตั้งแต่เริ่มต้นของการระบาดใหญ่ไปทั่วทั้งโลกเมื่อท้ายปี 2021 และก็ทำให้เกิดสายพันธุ์ย่อยจำนวนมากซึ่งทำให้แพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์ย่อยตัวเดิม

อาการของ XBB.1.5 นั้นมีความคล้ายคลึงกับอาการของโอมิครอน แม้กระนั้นก็ยังเร็วเกินไปที่จะรับรองว่าอาการคล้ายคลึงกันจริงหรือไม่ โดยคนป่วยส่วนมากที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยตัวนี้มักมีอาการเหมือนเป็นหวัด

XBB.1.5 ติดได้ง่ายกว่าหรือเป็นอันตรายมากกว่าสายพันธุ์ย่อยก่อนหน้าหรือไม่

XBB.1.5 พัฒนามาจาก XBB ซึ่งตรวจพบทีแรกในประเทศอินเดียในเดือน ส.ค. 2022 แต่ยังไม่ได้จัดอยู่ในชนิดที่เรียกว่า “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” โดยหน่วยงานด้านของสุขภาพ ต่อมาเริ่มแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือน กันยายน 2022

XBB มีการกลายพันธุ์ที่ช่วยให้เอาชนะภูมิต้านทานของร่างกายได้ แต่คุณคุณลักษณะเดียวกันนี้ยังลดความรู้ความเข้าใจสำหรับการติดโรคในเซลล์ของมนุษย์ด้วย

ศาสตราจารย์ เว็นดี บาร์เคลย์ จากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน พูดว่า XBB.1.5 มีการกลายพันธุ์ที่รู้จักกันในชื่อ F486P ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในการยึดเกาะกับเซลล์ตอนที่ยังคงหลบภูมิคุ้มกันได้ ทำให้แพร่ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น

เธอพูดว่า การเปลี่ยนแปลงทางด้านพัฒนาการเหล่านี้เป็นเหมือนก้าวแรกของทาง เนื่องมาจากไวรัสมีวิวัฒนาการเพื่อค้นหาแนวทางการใหม่สำหรับการหลบหลีกกลไกการคุ้มครองป้องกันตัวเองของร่างกาย

นักวิทยาศาสตร์จากองค์การอนามัยโลก (WHO) การันตีเมื่อ 4 ม.ค. ว่า XBB.1.5 มี “การได้เปรียบสำหรับการเติบโต” เหนือสายพันธุ์ย่อยอื่นๆทั้งหมดที่เจอในตอนนี้

แต่พวกเขาบอกว่าไม่มีข้อชี้ชัดว่ามันร้ายแรงหรือมีอันตรายมากยิ่งกว่าสายพันธุ์ย่อยก่อนหน้านี้อย่างโอมิครอน

WHO บอกว่าจะติดตามผลการศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการ ข้อมูลตามโรงพยาบาล รวมทั้งอัตราการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้เกี่ยวกับผลพวงที่มีต่อคนไข้

XBB.1.5 แพร่กระจายไปที่ใดบ้าง

กว่า 40% ของผู้ติดเชื้อโรคโควิดในสหรัฐอเมริกาคาดว่าเกิดจากสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ทำให้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศ

เมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2022 ผู้ติดโรคสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 มีสัดส่วนเพียง 4% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งทำให้ขณะนี้ XBB.1.5 ได้แซงหน้าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆอย่างรวดเร็วทันใจ

การเข้ารับการรักษาในโรงหมอของคนป่วยโควิดมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทั่วสหรัฐอเมริกา

ที่ทำการความยั่งยืนและมั่นคงด้านของสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UK Health Security Agency) มีกำหนดจะออกรายงานเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่แพร่ไปในสหราชอาณาจักรในอาทิตย์หน้า และก็อาจมีการพูดถึงสายพันธุ์ XBB.1.5

3โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5

สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหราชอาณาจักรได้หรือไม่

ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก็มีความเป็นไปได้

สหราชอาณาจักรเกิดการแพร่ระบาดของโอมิครอน 5 ระลอกในปี 2022 และก็การเพิ่มขึ้นของปริมาณคนไข้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

ตัวเลขผู้ป่วยรายสัปดาห์จนถึงวันเสาร์ที่ 17 เดือนธันวาคม จาก Sanger Institute หรือสถานบันแซงเกอร์ ในเคมบริดจ์แสดงให้เห็นว่า 1 ใน 25 ของคนเจ็บโควิดในสหราชอาณาจักรเป็น XBB.1.5

แม้กระนั้นข้อมูลนั้นมาจากตัวอย่างเพียงเก้าตัวอย่าง ด้วยเหตุนี้อาจจำต้องรอคอยอีกหนึ่งหรือสองอาทิตย์เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่าการแพร่ระบาดจะเป็นอย่างไร

ศาสตรจารย์บาร์เคลย์พูดว่า เธอคาดว่าจะมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงหมอมากเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร หากสายพันธุ์ย่อยเริ่มแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักร “ดังที่เราคาดไว้”

ศาสตราจารย์พอล ฮันเตอร์ จาก University of East Anglia หรือมหาวิทยาลัยแห่งอีสต์อังเกลีย กล่าวว่า “มีความน่าจะเป็นที่ XBB.1.5 จะมีผลให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกแรกในปลายเดือนนี้ แต่เราไม่อาจจะแน่ใจได้”

นักวิทยาศาสตร์กังวลเกี่ยวกับ XBB.1.5 หรือไม่

ศาสตราจารย์บาร์เคลย์บอกว่า เธอไม่ได้กลุ้มอกกลุ้มใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับประชากรทั่วไปของสหราชอาณาจักร เนื่องจากไม่มี “สัญญาณชี้” ว่า XBB.1.5 จะ “ทะลุผ่าน” เกราะป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงที่ผู้คนได้รับจากวัคซีนกันไปเป็นส่วนมากแล้ว

แต่เธอไม่สบายใจเกี่ยวกับผลพวงต่อกลุ่มบอบบาง ศูนย์รวมถึงคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันขาดตกบกพร่อง ซึ่งอาจมีเกราะป้องกันที่บางทีก็อาจจะน้อยกว่าจจากการได้รับวัคซีนโควิด

ศาสตราจารย์ฮันเตอร์พูดว่า เขาไม่เห็นหลักฐานว่า XBB.1.5 มีความร้ายแรงมากกว่า ซึ่งแสดงว่าบางครั้งอาจจะไม่ “ทำให้คุณจำต้องเข้ารับการดูแลและรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือฆ่าคุณ” มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนที่มีอยู่

“เกิดเรื่องน่าชวนหัวที่ทุกคนมุ่งความพึงพอใจไปที่สายพันธุ์ย่อยที่เป็นได้ว่าจะเกิดขึ้นจากจีน แม้กระนั้นตามที่เป็นจริงแล้ว XBB.1.5 มาจากสหรัฐฯ” เขากล่าวเสริม

ศาสตราจารย์เดวิด เฮย์มันน์ จาก London School of Hygiene and Tropical Medicine ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านสุขอนามัยรวมทั้งเวชศาสตร์เขตร้อนในลอนดอน ยอมรับว่ายังต้องอาศัยเวลาอีกพอเหมาะพอควรที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ย่อยตัวปัจจุบันนี้

แต่เขาบอกว่าไม่น่าจะมีผลให้เกิดปัญหาใหญ่ในประเทศอย่างอังกฤษ ซึ่งมีการฉีดยาในชั้นสูงแล้วก็การติดเชื้อของประชากรมาก่อนหน้านี้

ความหนักใจของเขาคือประเทศต่างๆอย่างเช่น จีน ซึ่งมีอีกทั้งจำนวนผู้รับวัคซีนที่น้อยและก็ภูมิต้านทานตามธรรมชาติยังไม่มากพอ อันสืบเนื่องมาจากการปิดประเทศที่กินเวลา

“จีนต้องแบ่งปันข้อมูลทางสถานพยาบาลเกี่ยวกับคนที่ติดเชื้อเพื่อดูว่าโควิดสายพันธุ์ย่อยพวกนี้มีพฤติกรรมอย่างไรในกลุ่มประชากรที่ไม่มีภูมิต้านทาน” ศ.จ.เฮย์มันน์กล่าว