แอน สิเรียม เปิดใจเพราะเหตุไร คราวหนึ่งถึงทิ้งวงการ พาลูกสาว ไปอยู่อังกฤษ นาน 8 ปี เคลียร์ข่าวเรื่องเยอะ จนกระทั่ง ผู้จัดการทนไม่ได้ ขอลาออก
เป็นอดีตนางเอกเบอร์หนึ่ง ของช่องอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่ในเวลานี้ อายุเข้าเลข 5 แล้ว แต่ว่า เธอยังดูดีตลอด ทั้งหน้าตา รวมทั้งรูปร่าง ยังคงเป๊ะเวอร์ งานนี้ แอน มาย้อนเล่าความหลัง ตั้งแต่เข้าวงการ และจริงไหม ที่เขาว่ากันว่า เขาเรื่องเยอะ จนกระทั่งผู้จัดการขอลาออก ผ่านทางรายการ ฮัลโหลซุปตาร์ ทางช่อง7 HD กดหมายเลข 35 ที่มี นีโน่ เมทนี, นุ้ย ธนวัฒน์ แล แอร์ ภัณฑิลา เป็นพิธีกร ดำเนินรายการ ผลิตโดย บริษัท นีโน่ บราเดอร์ส ของผู้จัด นีโน่ เมทนี แล้วก็หนิง ปณิตา
ในขณะนั้นเคยคิดไหม ว่าคาแร็กเตอร์แบบฉัน คนจะสนใจ? “เป็นยังไงยังไม่รู้คาแร็กเตอร์ตัวเองเลย”
แอน สิเรียม จะออกแนวโก๊ะๆน่ารักๆ? “มันเป็นบุคลิกของเราอยู่แล้ว ถ้าเกิดแกล้งทำมันไม่เนียนนะ มันต้องมีหลุดบ้าง”
แอนเข้าวงการเร็วด้วย? แอน : “ตอนนั้นอายุ 14”
เขาปังแค่ไหน? นีโน่ : “นางเอกนี่นับคนได้ แต่ถ้าเป็นนางเอกช่อง7 สมัยนั้นแอนมาเร็วที่สุดที่กลายเป็นเบอร์หนึ่ง ปกติเขาจะครองกันยาวจนถึงอายุเยอะ แต่พอแอนมาวิ่งเป็นเบอร์1 เร็วมาก”
แอน : “แอนต่อพี่ตุ๋ย มนฤดี พี่แก้ว อภิรดี”
นีโน่ : “แอนมา 18 เขาเป็นเบอร์1 แล้ว”
สมัยก่อนถ้ากล่าวถึงทรงผม มีคนไปดัดผมตามแอน? แอน : “สมัยก่อนผมหยักศก ผมหยิกเอง สมัยก่อนไม่ชอบเลยรู้สึกสางผมยาก ก็พยายามไดร์ให้ตรง ตอนนี้ก็ตรงขึ้นเยอะ ไม่หยิกอย่างนั้นแล้ว”
เมื่อก่อนเคยโดนบูลลี่ด้วย เพราะว่าความเป็นลูกครึ่ง ของเรา? แอน : “ใช่ค่ะ สมัยก่อนลูกครึ่งจะน้อย แล้วแอนจะเป็นคนหน้าตกกระ แล้วผอม ตัวเล็กเหมือนไม้เสียบผี ก็เลยจะต้องโดนล้อ เขาบูลลี่ว่าไม่เห็นสวยเลย ฝรั่งขี้นก”
พอเราเข้าวงการ คำบูลลี่ต่างๆ เหล่านั้น มันเป็นไงบ้าง? แอน : “ก็ค่อยๆ หายไป เหมือนกับเราต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าเราเป็นคนทำงานมีความสามารถ แอนว่ามันมีทุกยุคทุกสมัยแตกต่างกันไป แต่พอเราโตขึ้นมันก็ทำให้เราสามารถแบกรับหลายๆ เรื่องได้มากขึ้น จริงๆ โดนหมด แต่งตัวไม่สวย หรืออะไรโดนหมด แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนยอมรับ”
คิดออกไหม ละครเรื่องไหน พลิกชีวิตแอน? แอน : “ได้แสดงแต่ละเรื่องของช่อง7 แบบดีหมดเกือบทุกเรื่อง ยุคแอนกับดาราวิดีโอจะโตมาด้วยกัน ทวิภพ ก็เป็นเรื่องที่แอนชอบด้วย แล้วก็ภูมิใจด้วย ตั้งใจทุกฉาก เก็บไปนอนฝัน ท่องภาษาฝรั่งเศส คนจะเรียกแม่มณีเยอะ หรือว่าเรื่องกับพี่เบิร์ด วันนี้ที่รอคอย”
เดี๋ยวนี้ 50 แล้วไลฟ์สไตล์ชีวิต เปลี่ยนไหม? แอน : “เปลี่ยนนะ ความรู้สึกเปลี่ยน แต่ก็ยังสนุกอยู่ ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะไม่ชอบการแสดงไปแล้ว แต่กลับชอบเพราะรู้สึกว่าในวัยนี้มันได้เล่นอะไรที่ท้าทายความสามารถได้เยอะกว่าแต่ก่อน แต่ก่อนจะได้เล่นแบบแบ๊วๆ แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่ายิ่งเล่น ยิ่งสนุก เพราะมันเหมือนเรามีประสบการณ์ชีวิต แล้วพอเรานำมาถ่ายทอดในการแสดงมันมันส์ สนุกดี”
อีกหนึ่งอย่างไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว? แอน : “ใช่ เพราะสมัยก่อนแอนไม่ค่อยได้เที่ยวไง ละครถ่ายไปออนไปด้วย”
ช่วงหลังในอินสตาแกรม ออกกำลังกายเยอะมากด้วย? แอน : “ก็ต้องมีบ้าง ด้วยวัยเราการออกกำลังกายช่วยให้เรารีเฟรช มันทำให้สดชื่นขึ้น”
ออกกำลังกายอย่างนี้ หุ่นถึงเซี๊ยะ ในไอจีมีชุดว่ายน้ำ สามีว่ายังยังไง? แอน : “สามีไม่ว่า เขาว่าจนเลิกว่าไปแล้ว เขาก็บ่นๆ แต่ถ้าเราแก่ไปกว่านี้เราก็ไม่ได้แล้วนะ ตอนนี้ช่วงเวลาชีวิตที่อยากทำอะไรก็ทำ”
กระทั่งกลายเป็นดาว tiktok? แอน : “ทุกคนเล่น เราก็อยู่กับยุคสมัย อะไรเปลี่ยนไปเราก็ร่วมสมัยกับเขาด้วย แค่นั้นเองไม่ได้คิดอะไรมาก เวลาอยู่กองถ่ายมันก็ว่าง ถ่ายละครกับพี่ป๋อนี่แหละ เขามาชวนเล่นจริงๆ จังๆ”
แอนเป็นคนออกกำลังกาย ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตนเองตลอด เลือกทานอาหาร คนอาจจะเห็นว่าเรื่องมากไหม จริงๆไม่ใช่ ไปตรวจเจอว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง คือภูมิแพ้แอบแฝง? แอน : “ใช่ๆ เราออกกำลังกายเยอะมาก ทำไมท้องอืด ไม่เข้าห้องน้ำแล้วมันพองแบบไม่ได้กินอะไรเยอะเลือกทานแต่โปรตีน ทานไข่ ก็เลยไปเช็ก แล้วเริ่มมีลม เหมือนเป็นโรคคนแก่ ตอนนี้ฉันแก่ขนาดนี้แล้วเหรอก็เลยเอาเลือดไปตรวจ ออกมาลิสต์แพ้อะไรบ้าง แอนถามต้องทำยังไง เขาบอกว่าลองหยุดอาหารที่แพ้ก่อน แล้วมันเยอะมาก 10 กว่าอย่างเป็นของที่แอนชอบหมดเลย หลักๆ อะโวคาโด้ ไข่แดง ไข่ขาว พวกผลิตภัณฑ์ที่มาจากแป้งทุกอย่างเลย กินก๋วยเตี๋ยวไม่ได้ สปาเก็ตตี้ไม่ได้ แต่ทานข้าวได้ เพราะลดข้าวตลอด”
อาการเวลาทานของเหล่านี้เข้าไป จะคืออะไร? แอน : “ไม่ย่อย ท้องอืด อึดอัด หมอบอกว่ากระเพาะเป็นรูเล็กๆ เป็นแผล แล้วพอลองหยุดดู นี่เดือนที่ 6 แล้ว เริ่มดีขึ้นกลับมาค่อยๆ ทาน หมอบอกให้ค่อยๆ กลับมาทานทีละนิดๆ บทเรียนของแอนคือทานอาหารที่หลากหลาย อย่าทานซ้ำมาก แล้วอยู่ให้มีความสุข”
มีอยู่ตอนหนึ่ง แอนกับบุตรสาวย้ายไปอยู่อังกฤษเลย? แอน: “ค่ะ”
ต้นเหตุของการย้ายไปเพราะอะไร? แอน: “อยากย้ายก็ย้ายไปเลย พาลูกไปเรียนที่นู้นแล้วจะได้ดูด้วย”
ณ ตอนนั้น งานที่เมืองไทยล่ะ? แอน: “ไม่ได้ทำเลย เพราะมันทำมาตั้งแต่อายุ 14 แล้ว คิดว่าเราก็มีพี่สาวอยู่ที่นู้น มีญาติพี่น้อง ไม่ได้ไปแบบไม่มีใครเลย มันก็มีเพื่อนมีสังคมอยู่ที่นู้น แต่ก็ไปทำธุรกิจความงามตอนนั้น ก็ลองเปลี่ยนโซนดูว่าเราทำสายนี้มาเยอะแล้ว เรามาทำงานอยากเป็นนักธุรกิจหญิงบ้าง แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จ กลับมาเป็นดาราเหมือนเดิมนี้ดีแล้ว”
8 ปีที่ตัดสินใจ ว่ากลับไทย มารับงานดีกว่า? แอน : “ไม่ถึง 8 ปีหรอก ประมาณ 6-7 ปีได้ แต่พอมาแต่งงานกับสามี ก็ไปๆ มาๆ ทุก 3-4 เดือน แอนก็กลับแล้ว อยู่ไม่ไหว หนาว”
สามีแอนเขามาทำธุรกิจก่อน หรือแอนให้เขามาทำ ที่เมืองไทย? แอน : “เขาอยู่เมืองไทยมาก่อนแล้ว แล้วเราก็เจอกันที่เมืองไทยนี่แหละ เขาชอบเมืองไทย”
ตอนกลับมาจากอังกฤษ เราก็ทิ้งงานไปเยอะ นานมาก? แอน : “เรียกว่าพักดีกว่า กลับมาต้องปรับหมดเลย ทั้งกลับมาแสดงก็ต้องปรับ อยู่อังกฤษเราก็ต้องปรับเหมือนกัน มันมีวัฒนธรรมประเพณีแตกต่างกัน แต่มันก็แล้วแต่คนด้วย อย่างสามีแอนเขาไม่พูดไทย ภาษาอังกฤษแอนก็ไม่ได้ดีมากแอนก็ไปฝึก ไปเรียนที่นู้น เขาก็ส่งไปเรียนฝึกพูด ฝึกเขียน เรียนเข้าสังคมที่นู้น”
แอนกลับมาวงการบันเทิง เขากล่าวว่าแอนกลับมา แอนเป็นคนเรื่องเยอะ เรื่องเยอะขนาดผู้จัดการต้องขอลาออก? แอน : “ไม่เคยรู้ข่าวนี้เลย”
ผู้จัดการคนนั้นคือนนนี่? แอน : “ผู้จัดการอยู่บนหิ้งด้วย”
เขาว่ายังไงบ้าง ในขณะที่ไม่ได้ดูแลแอนแล้ว? แอน : “มันต้องรู้ขนาดนี้เลยเหรอแม่ ต้องละเอียดขนาดนี้เลยเหรอแม่ แต่จริงๆ เราก็สอนด้วยไง แต่โดยธรรมชาติเขาเป็นคนทำงานเก่งอยู่แล้ว แต่อยู่ที่เขาจะทำหรือไม่ทำ สมัยก่อนตอนเข้าวงการแอนก็เรื่องเยอะ เรื่องแต่งหน้าทำผม แต่พอมาวัยนี้เราก็สอนด้วย ถามหรือถ้าไม่ถามก็บอกมาให้ละเอียดว่าลักษณะงานเป็นยังไง ต้องแต่งตัวยังไง หน้าผมแบบไหน รายการออนแอร์กลางวันหรือกลางคืน ซึ่งเราก็ได้แต่งตัว เตรียมความพร้อมของเราเอง เราไม่ได้แบบว่าลุกขึ้นมาแล้วไปกองทั้งอย่างนั้นโดยที่ไม่เตรียมตัวทำการบ้านเลย แล้วเราอายุมากแล้ว เราจะมาให้นักแสดงเด็กๆ เขามารอเราว่าเราท่องบทไม่ได้ เราจำบทไม่ได้ เราก็ต้องเตรียมตัว”
กลับมาเล่นละคร กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง? แอน : “ก็ดีนะ เพราะเล่นร้ายเหลือเกิน ครบรส สนุกดี ถือว่ามันเป็นช่วงจังหวะที่เข้ามาลงตัวกับชีวิตด้วย แล้วเรารู้สึกมันส์ดี แอนว่าทีมงานกองละครเก่งขึ้นเยอะ สมัยเราไม่มีกว่าจะได้บท สมัยนี้ต้องอ่านบท เวิร์กช็อปก็ได้รู้จักนักแสดงมีความสุขดี แอนรู้สึกว่ามันทันสมัย ทุกคนต้องมาบอกถึงคาแร็กเตอร์ของตัวเองว่าเป็นยังไง เราอ่านบทแล้วเราแชร์กับผู้กำกับได้ ให้ไอเดียได้”
ผลงานหนึ่งของแอน ที่ทำให้ทราบเลยว่า แอนกลับมาทำงาน เต็มตัวแล้ว คือการกลับมาทำงานกับเชียร์? แอน : “ใช่ ก็คิดอยู่นะคะ จะเล่นดีไม่เล่นดี”
ปัจจุบันนี้มีการยอมรับ LGBTQ เพิ่มมากขึ้น? แอน : “จริงๆ กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ถามว่ายากไหม ตอนที่แอนอ่านบทมันก็มีสะดุ้งนะคะ แต่ก็เล่นไปตามธรรมชาติ ที่แบบความรักอาจจะไม่ได้เกิดแค่ผู้หญิง ผู้ชาย บางทีเราก็มีความรักกับเพศเดียวกัน เราก็ต้องมองให้มันเป็นสิ่งสวยงาม”
คุณสามีว่ายังไงบ้าง ต้อง ดูเราเลิฟซีน? แอน : “คุณสามีเขาก็แบบว้าวอะไรอย่างนี้”
เจอกับสามีได้อย่างไร เขาทราบไหมว่าเรา เป็นผู้แสดง? แอน : “เขารู้ว่าเป็นนักแสดง แต่ไม่ได้รู้ว่าเป็นนางเอก เขาเข้าใจว่าเล่นทั่วไปจนกระทั่งวันแต่งงาน ญาติพี่น้องเขาเองก็ไม่รู้นะคะ จนกระทั่งวันแต่งงาน ที่อังกฤษเพื่อนแอนเป็นคนสวิส เขาไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว มีสไลด์ ทุกคนแบบ หูย…ยูมีแฟนเป็นดาราเลยนะ ตอนนั้นเพื่อนๆ ก็เลยเริ่มรู้”
อะไรที่ตัดสินใจว่า คนนี้ใช่แล้ว? แอน : “เขามีความเป็นผู้ใหญ่ แล้วด้วยวัยของเรา แอนก็ 50 แล้ว แล้วเขาก็ 60 แล้ว ก็รู้สึกว่ามันเข้ากันได้ นี่แต่งงานกันมาเกือบ 10 ปีแล้วเหมือนกันนะ และที่สำคัญเขาไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวมาก”
เขาหึงแค่ไหน? แอน : “ไม่หึงอะไรขนาดนั้น แต่ต้องแจ้งก่อนว่าวันนี้จะไปปาร์ตี้ วันนี้จะไปกับเพื่อนนะ แต่เรื่องงานเขาไม่ยุ่ง เพราะเขาไม่ค่อยดูทีวีไทย”
แยกอย่างไร ระหว่างครอบครัว กับการทำงาน? แอน : “รู้สึกว่าตัวเองแยกได้ดีขึ้น เวลางานคือทำงาน กลับบ้านอยู่บ้านคือแบบจัดการทำหน้าที่ภรรยา ทำหน้าที่ของแม่ แล้วก็ทำหน้าที่ลูก แอนว่าแอนชอบช่วงวัย 45-50 แอนรู้สึกผู้หญิงมีความชัดเจน มีความเข้าใจในตัวเองมากขึ้นแล้วเราก็โตพอผ่านประสบการณ์ชีวิต รู้ว่าอะไรที่เราจะทำ อะไรที่เราจะไม่ทำ มันก็มีความมั่นใจมากขึ้น”