ตลาดหลวงถูกบล็อก ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ก่อตั้งและบริหารจัดแจงเพจ (แอดมินเพจ) เฟซบุ๊กกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง บอกเตรียมชื่อใหม่ไว้แล้ว ถ้ากลุ่มนี้ถูกเฟซบุ๊กปิดหรือสกัดการเข้าถึงในประเทศไทย
เมื่อ 20.30 น. ของ 10 ม.ค. ปวินใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา Pavin Chachavalpongpun แจ้งผู้ติดตามว่า “ตลาดหลวงถูกบล็อกในไทย
Royalist Marketplace is blocked in Thailand” และก็ในเวลา 21.12 น. โพสต์อีกข้อความว่า “กำลังคุยกับเฟสบุ๊ค เดี๋ยวจะมีข้อสรุปค่ะ”
รศ.ที่ศูนย์เอเซียอาคเนย์เรียน ของมหาวิทยาลัยเกียวโต พูดว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการติดต่อกับเฟซบุ๊กอย่างไม่เป็นทางการเพื่อสอบถามว่ามีการปิดการเข้าถึงเฉพาะพื้นที่ (geo-blocking) ต่อกลุ่มพูดคุยส่วนตัวนี้ ที่มีสมาชิกถึง 2,335,260 บัญชีหรือไม่
“คราวนี้ ไม่มีการบอกกันล่วงหน้า เมื่อตอนปิดคราวที่แล้ว คนที่เฟซบุ๊กที่ผมรู้จักโทรมาบอกก่อน” นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และลี้ภัยอยู่ในญี่ปุ่นเนื่องจากคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกล่าวกับบีบีซีไทย
“ผมเฉย ๆ กับคำสั่งปิดรอบนี้ เพราะตลาดหลวง ประสบความสำเร็จไปแล้ว… ผมเตรียมกลุ่มสำรองไว้แล้ว ปิดแล้ว ก็เปิดใหม่ได้ มีชื่อใหม่แล้ว” ดร. ปวิน กล่าว
ความเป็นมาของกลุ่มนี้
ราวปลาย เดือนสิงหาคม 2563 กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ถูกจัดตั้งขึ้นทางเฟซบุ๊ก เปิดได้ไม่กี่วัน ก็ถูกขัดขวางการเข้าถึงในเมืองไทย ทำให้ ดร.ปวิน และก็ผู้ที่เกี่ยวข้องเปิดกลุ่มใหม่ขึ้นมาทันทีในชื่อ กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง เพียงสองอาทิตย์ของการเปิดกลุ่มใหม่มียอดสมาชิกเกินกว่า 1.27 ล้านคน แซงหน้ากลุ่มแรก และสมาชิกยังสามารถเข้าถึงเนื้อหาในกลุ่มใหม่ได้ไม่ว่าที่แหน่งใดในโลก รวมทั้งในไทย
กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง โพสต์รายละเอียดวิจารณ์ราชวงศ์ไทย ในทำนองเดียวกับที่ทำให้เพจกลุ่มแรกจะต้องถูกกีดกันในไทย รวมทั้งส่งผลให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและก็สังคม ร้องทุกข์ปรักปรำต่อกองควบคุมล้มล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ฟ้องร้องคดีกับ ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ก่อตั้งและก็บริหารจัดการเพจ (แอดมินเพจ) และผู้เกี่ยวข้องกับเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงและยั่งยืน
เฟซบุ๊กประกาศณ เวลานั้นว่าจะโต้แย้งทางด้านกฎหมายต่อทางการไทยที่ขอให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับการพูดคุยกันเรื่องราชวงศ์แล้วก็สถาบันกษัตริย์ของกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส แต่ดูอย่างกับว่าทางการไทยจะมองเห็นคำประกาศของเฟซบุ๊กเป็นเพียงคำขู่ของเสือกระดาษ
ดร. ปวินบอกกับบีบีซีไทยในการสัมภาษณ์เมื่อช่วง ก.ย. 2563 ว่า “ถ้าคุณมีเวลาปิดกลุ่ม ผมก็มีเวลาไปเปิด คุณปิด ผมเปิด คุณปิด ผมเปิด”
อยากรู้เรื่องเจ้าต้องยอมรับความเสี่ยง
ใจความหลักของการพูดคุยในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง เน้นที่สถาบันสูงสุดของไทย มีเรื่องมีราวความลำบากของราษฎร รวมทั้งการเมืองอื่นๆแทรกอยู่บ้าง นอกเหนือจากนั้น ยังมีผู้โพสต์วิดีโอการบรรยายทางวิชาการ ที่มีรายละเอียดเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการผู้หลบภัย ที่ผู้ติดตามเขายกให้เป็น “บิดา” ตัวจริงที่ข้อมูลรอบด้านเกี่ยวกับสถาบันชั้นสูงของประเทศ
ดร.ปวิน สารภาพว่าสิ่งที่สนทนาเปลี่ยนกันในกลุ่มได้โอกาสทำให้ลูกเพจสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายเหมือนกับเขา
“ผมรู้เรื่องความเสี่ยงของสมาชิกที่ต้องการรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการต่อสู้อะไรก็ตามโดยเฉพาะเพื่อระบอบประชาธิปไตย โดยยิ่งไปกว่านั้นการหยิบเอาประเด็นที่หวั่นไหว หัวข้อต้องห้ามในสังคมมาเป็นระยะเวลานาน (มาบอก) มันมีความเสี่ยงเสมอ ผมรู้สึกว่าคนที่กำลังต้องการจะค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ต้องสารภาพข้อมูลนี้ว่ามีความเสี่ยง”
แต่เขามีความคิดเห็นว่าการที่กลุ่มมีสมาชิกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นภูมิป้องกัน และแสดงให้เห็นว่าคนได้ก้าวผ่านความหวาดกลัวที่จะพูดเรื่องต้องห้ามนี้แล้ว
ตลาดหลวงถูกบล็อก แต่สุดท้ายก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ใน การสัมภาษณ์ เมื่อ 10 ม.ค. ดร. ปวินบอกว่า ความสนใจ และ การ พูดคุย ใน กลุ่ม กลับ มา คึกคัก อีกครั้ง หลัง ข่าว พระอาการ ประชวร ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ถูกเผยแพร่ ผ่าน ประกาศ สำนักพระราชวัง
“ช่วงนี้ เราเสนออะไรที่เซนซิทีฟออกไปทุกวัน ความสนใจจึงกลับมามากขึ้น”
การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันชั้นสูงของเขาอย่างตลอดทำให้เขาเผชิญกับการคุกคามในประเทศญี่ปุ่น
เมื่อ 8 มิ.ย. 2665 ศาลเมืองเกียวโตชี้ขาดติดตะรางชายชาวญี่ปุ่นวัย 43 ปีที่บุกเข้ามาทำร้าย รองศาสตราจารย์ ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและผู้หลบภัยทางการเมืองในญี่ปุ่น เมื่อปี 2563 เป็นเวลา 20 เดือน ใน 2 ข้อผิดพลาด คือ ล่วงล้ำบ้านเรือน และทำร้ายร่างกาย
เมื่อเวลา 23.10 น. ของ 10 มกราคม Nuttigar Woratunyawit แอดมินของกลุ่มตลาดหลวงก็โพสต์ว่า
“ด้วยบารมีล้นฟ้าของสมเด็จแม่ปวิน ตลาดหลวงเรากลับมาดำเนินการตามปกติแล้วนะคร่า ขอบคุณชาวสมาชิกตลาดหลวงที่ช่วยกันสวดมนต์จนมาร์ค ซัคเห็นใจ”
ที่มา สำนักข่าว BBCThai